ในสมองของเทรดเดอร์นั้น ประกอบไปด้วยโลกสองใบ ใบแรกคือ “โลกแห่งหลักการและเหตุผล” ใบที่สองคือ“โลกแห่งความคิด อารมณ์และความรู้สึก” คุณไม่ได้สร้างขึ้นมาหรอก มันมีของมันอยู่แล้ว ซึ่งเราจะต้องดูแลโลกทั้งสองใบให้ดี สร้างสมดุล เพื่อความสำเร็จในการลงทุน บนโลกของหลักการและเหตุผล  เราใช้ตรรกะทั้งหลายที่ใช้ในการเทรด เป็นเหตุเป็นผล มีที่มาที่ไปรองรับ ไม่ว่าจะด้วยการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน ปัจจัยเทคนิค รวมถึงข้อมูลข่าวสารทั้งมวลที่อยู่ในตลาดมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการซื้อขายหุ้น ในขณะที่โลกของความคิด อารมณ์ ความรู้สึก หลัก ๆ นั้น  คือ ความกลัว ความโลภ  ความหวัง และอคติ ที่จะส่งผลกระทบต่อการกระทำในทุก ๆ ช่วงของการเทรด

อย่างไรก็ตามมักมีความเชื่อผิด ๆ ที่บอกว่าเราควรเทรดโดยใช้โลกของเหตุผลเพียงอย่างเดียว โดยปราศจากอารมณ์ ถึงจะดี หมายความว่าจะต้องทำลายโลกใบที่สองทิ้งไป แต่ในความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้หรอก และ ความพยายามที่จะทำจะส่งผลเสียต่อการเทรดซะมากกว่า

วันนี้เราจะมาดูที่อารมณ์ตัวสำคัญกันนั่นก็คือคือ ความกลัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนจะประสบพบเจอเป็นประจำ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเข้าซื้อหุ้นแล้ว เราจะกลัวอะไร?แน่นอนครับ ใคร ๆ ไม่อยากผิดทาง ไม่อยากขาดทุนไม่ต้องการเห็นพอร์ตแดง ๆ แต่เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ผิดทางจริง ๆ ขึ้นมา นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะทำอย่างไรล่ะ ที่จะทำให้เกิดความสบายใจวิธีที่ง่ายที่สุดในการขจัดความกลัวให้หมดสิ้น ก็คือ ทำการขายหุ้นเพื่อออกจากสถานะ ว้าว!! ความกลัวหายไปจริง ๆ คุณจะโล่งอก ผ่อนคลาย อย่างไรก็ดี การกระทำดังกล่าว เป็นการตอบสนองอารมณ์ของโลกใบที่สองล้วน ๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนการตัดขาดทุนที่ได้วางเอาไว้อย่างดี ด้วยกระบวนการคิดของโลกใบที่หนึ่งแม้แต่น้อย บ่อยครั้งหลังจากขายแล้วราคาหุ้นก็พุ่งไปตามทิศทางที่ได้วิเคราะห์เอาไว้ตั้งแต่แรก

ในทางตรงกันข้าม เมื่อราคาหุ้นเริ่มพุ่งทะยาน ไปถูกทางยิ่งไปกันใหญ่!!นั่งดู Unrealized  Profit ที่หน้าจอทั้งวัน ความรู้สึก คือ กลัวราคาย้อนกลับมาเท่าทุนและขาดทุนในที่สุด การขายหมูจะเกิดขึ้นในช่วงอารมณ์นี้ครับ เพราะว่า การขายหมูทำให้เติมเต็มความรู้สึกพึงพอใจว่า “อย่างน้อยก็ได้กำไรวะ” และ เป็นการขจัดความกลัวที่จะคืนกำไรได้หมดสิ้น ถามว่าเป็นผลดีต่อการลงทุนไหม? ไม่แน่นอนเพราะจะทำให้ชวดโอกาสในการ Let Profit Run

กรณีสุดท้ายที่ความกลัวส่งผลต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาดคือ Fear Of Missing Out (FOMO) หรือ กลัวจะตกรถ หุ้นขึ้นแล้วไม่มีเรา เคยเป็นกันบ้างไหม? เขาว่า ลือว่า หุ้นตัวนั้นดี ตัวนี้เยี่ยม ราคาจะต้องไปอย่างน้อยอีกหลายเท่า ก็ตื่นเต้นล่ะสิ เพราะว่ากลัวไม่ทัน ไม่ว่าราคาจะอยู่ระดับใด เปิดตลาดมาเข้าซื้อ ATO ทันที โดยลืมทุกสิ่งอย่าง ความรู้ประสบการณ์ที่ได้จากโลกใบที่หนึ่ง ทั้งการวิเคราะห์ วางแผนต่าง ๆ พับเอาไว้ก่อน ปรากฏว่าเมื่อเข้าไปแล้ว กลายเป็นคลื่นลูกสุดท้ายปลายยอดดอย หนาวไหมล่ะครับ

จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่า การจำกัดความกลัวจากโลกใบที่สองออกไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ท่านควรทำ การเข้ามาเทรดเข้ามาลงทุนในตลาด ไม่ใช่เรื่องที่จะมีความสุขกายสบายใจ  ลั่นล้าตลอดเวลา จะต้องมีอารมณ์ด้านลบร่วมด้วยเสมอ โดยเฉพาะความกลัว กุญแจสำคัญคือ จะต้องอยู่ร่วมกับมันให้ได้ ให้ถอยออกมา แล้วมองกลับไปที่ความรู้สึกของเรา จับอารมณ์ ตระหนักรู้ว่า โอเค ฉันรู้สึกอย่างนี้นะ อ๋อ….นี่คือความกลัว ก็มีอยู่ก็เท่านั้น แผนจากโลกใบที่หนึ่งยังดำเนินต่อไป ตามที่ได้วางเอาไว้และถ่วงดุลและยอมรับว่ามีโลกทั้งสองใบร่วมกันอยู่เสมอในสมองเทรดเดอร์เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีตามที่ต้องการครับ

References : Dayton, G. (2015). Trade mindfully: Achieve your optimum trading performance with mindfulness and cutting-edge psychology. Hoboken: John Wiley & Sons,Ward, S. (2015). Tradermind: Get a mindful edge in the markets. Chichester, West Sussex: Wiley.